ผนัง Precast  คืออะไร และมีความแตกต่างจากผนังก่ออิฐฉาบปูนอย่างไร

การสร้างบ้านด้วย “ผนัง precast” (พรีคาสท์) หรือ “แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป” เป็นหนึ่งในวิธีสร้างบ้านที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านด้วยผนัง precast หรือการสร้างคอนโดด้วยแผ่น precast ซึ่งเป็นวิธีที่ออกแบบมาเพื่อใช้ทดแทนการใช้ผนังก่ออิฐฉาบปูน แต่การสร้างบ้านด้วยระบบผนัง สํา เร็ จ รูป precast นี้นั้นจะมีข้อดีข้อเสียหรือมีความแตกต่างจากผนังก่ออิฐฉาบปูนอย่างไร ติดตามได้จากบทความนี้

ผนัง Precast หรือ ผนังสำเร็จรูป คืออะไร

แผ่น precast หรือ ผนัง precast คือ แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีการหล่อและขึ้นรูปมาจากโรงงาน ผลิต ผนัง พ รี แค ส จึงสามารถนำมาติดตั้งหรือประกอบกันที่หน้างานได้ทันทีโดยไม่ต้องอาศัยการก่ออิฐฉาบปูนที่หน้างานเหมือนที่เห็นกันโดยทั่วไป อีกทั้งยังไม่ต้องอาศัยโครงสร้างของเสาหรือคานมารองรับ เนื่องจากภายในของผนัง พ รี แค ส คือ คอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความแข็งแรงและคงทนกว่าก่ออิฐฉาบปูนทั่วไปหลายเท่าตัว จึงสามารถรับน้ำหนักของตัวบ้านแทนที่โครงสร้างบ้านรูปแบบเดิม ๆ ได้ดีกว่ามาก

ผนัง Precast ทำมาจากอะไร ต่างจากผนังแบบอื่นยังไง

ผนัง พ รี แค ส คือ ผนังที่สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อสำเร็จรูปด้วยเครื่องจักรในโรงงาน ผลิต ผนัง พ รี แค ส ที่รับ ผลิต ผนัง พ รี แค ส จึงมีคุณภาพและมาตรฐานการผลิตที่สม่ำเสมอ แข็งแรง ทนทาน สวยงาม ง่ายต่อการใช้งานโดยไม่ต้องใช้โครงสร้างอื่นใดมารองรับ เพราะตัวแผ่น precast จะทำหน้าที่เป็นทั้งโครงสร้างอาคารและผนังอาคารในตัวเอง โดยรับน้ำหนักของอาคารและถ่ายลงสู่โครงสร้างใต้ดินโดยตรง สามารถขนย้าย ยก ติดตั้ง ประกอบ ถอดใช้งานใหม่ได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ต่างจากการก่ออิฐฉาบปูน การใช้ไม้ฝา แผ่นไม้บอร์ด หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาโครงสร้างในการรับน้ำหนักและใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างมาก

ผนัง Precast ปลอดภัยหรือไม่

โดยทั่วไปแล้ว แผ่น precast จะมีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากกว่าวัสดุประเภทอื่น ๆ ด้วยพื้นผิวที่มีส่วนประกอบเหล็กหนาอย่างน้อย 0.5 มิลลิเมตร หมดกังวลเรื่องการทรุดตัว แตกร้าว หรือหลุดร่อน นอกจากนี้ในกรณีที่เกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือลมพายุ อาคารที่สร้างด้วยผนัง สํา เร็ จ รูป precast จะสามารถรับแรงปะทะได้มากกว่าระบบเดิมมาก เนื่องจากระบบผนัง precast มีความสามารถในการรับแรงสั่นสะเทือนหรือแรงโยกได้เป็นอย่างดีและยังสามารถทนไฟมากกว่า 2 ชั่วโมง จึงถือได้ว่ามีความปลอดภัยในการใช้งานมาก สำหรับการเจาะผนัง Precast นั้นควรเว้นระยะให้ห่างจากช่องประตูหรือช่องหน้าต่างอย่างน้อย 12-15 เซนติเมตรขึ้นไป และจะต้องระมัดระวังไม่ให้เจาะไปโดนส่วนที่เป็นเหล็กเสริมที่อยู่ภายในแผ่น Precast นอกจากนี้ การทุบเพื่อเปิดช่องหน้าต่าง ประตู การรื้อผนัง หรือการต่อเติมโครงสร้าง ต้องดำเนินการตามคำแนะนำของวิศวกรผู้ออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโครสร้างโดยรวมนั่นเอง

ข้อดีของการใช้ผนัง Precast / ประโยชน์ของผนัง Precast

• มีความแข็งแรง คงทน และรับน้ำหนักได้มากกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน
• ลดระยะเวลาที่ใช้ในการก่อสร้าง เนื่องจากผนัง precast นั้นถูกหล่อและขึ้นแบบจากโรงงาน ผลิต ผนัง precast ไว้ล่วงหน้า
• น้ำหนักเบา สามารถยก ติดตั้ง ประกอบ ถอดใช้งานใหม่ได้สะดวก
• ลดการพึ่งพาแรงงานก่อสร้าง
• ได้มาตรฐานกว่าการสร้างด้วยระบบอื่น ๆ เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือช่างหรือปัจจัยแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ เป็นต้น
• ลดปัญหามลภาวะฝุ่นและเสียงในขณะก่อสร้าง
• ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเมื่อต้องมีการก่อสร้างงานที่มีรูปแบบเดียวกัน

บ้านแบบไหนที่ใช้ผนัง Precast

ผนัง สํา เร็ จ รูป precast นิยมใช้ในงานก่อสร้างเชิงอุตสาหกรรม เช่น โครงการบ้านจัดสรรหรือคอนโดที่ต้องมีการก่อสร้างพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตอบโจทย์ด้านความรวดเร็วในการก่อสร้างและช่วยประหยัดงบประมาณค่าแรงงานได้มาก สำหรับในกรณีที่ต้องการปลูกบ้านเองก็สามารถเลือกใช้ผนัง precast ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เนื่องจากการผลิตแม่แบบผนัง precast เพื่อสร้างบ้านเพียงหลังเดียวนั้นไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับระบบอื่น

แนะนำวิธีการเจาะผนัง Precast

ในการเจาะผนัง precast เพื่อต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาคาร หรือเจาะช่องสำหรับทำประตู หน้าต่างเพิ่ม จะต้องมีการปรึกษาวิศวกรก่อนทุกครั้ง แต่หากเป็นการเจาะเพื่อแขวนรูป ทำชั้นวาง หรือติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ สามารถทำได้โดยไม่รบกวนโครงสร้างของผนัง Precast แต่อย่างใด เพียงแค่เลือกใช้พุกให้เหมาะสมกับน้ำหนักของที่จะแขวนดังนี้

• ของที่มีน้ำหนักเบา

หากต้องการติดตั้งของที่มีน้ำหนักไม่มากอย่างกรอบรูป ชั้นวางของ หิ้งพระ ทีวี ฯลฯ สามารถใช้พุกพลาสติกทั้งเบอร์ 6 และเบอร์ 8 ซึ่งจะสามารถรับน้ำหนักได้ 20 กิโลกรัมต่อจุด

• ของที่มีน้ำหนักปานกลาง

สำหรับของที่มีน้ำหนักปานกลางอย่างอ่างล่างหน้า ตู้บิวท์อิน หรือทีวีขนาดใหญ่ สามารถใช้พุกเหล็ก เบอร์ 416 ในการติดตั้ง ซึ่งจะสามารถรับน้ำหนักได้ 80 กิโลกรัมต่อจุด

• ของที่มีน้ำหนักมาก

ของมีน้ำหนักมาก เช่น เครื่องปรับอากาศ แนะนำให้ใช้พุกตะกั่ว 1/4 นิ้ว เพื่อเสริมการรับน้ำหนัก ซึ่ง สามารถรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัมต่อจุด

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ผนัง Precast กับ ผนังก่ออิฐฉาบปูน

• ด้านการก่อสร้าง

การสร้างบ้านด้วยการก่ออิฐฉาบปูนจะออกมาดีหรือไม่นั้นย่อมขึ้นอยู่กับฝีมือและความชำนาญของช่าง จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา แต่ผนัง precast เป็นการผลิตชิ้นส่วนมาจากโรงงาน ผลิต ผนัง พ รี แค ส หรือ บริษัท ผลิต ผนัง precast ทำให้มีมาตรฐานที่สม่ำเสมอเท่ากันทุกชิ้น มีความแข็งแกร่ง ทนทาน คุณภาพดีกว่า

• ด้านค่าใช้จ่าย

แม้ผนัง precast จะมีราคาผลิตหรือต้นทุนที่สูงกว่า แต่ก็ใช้แรงงานในการสร้างน้อยกว่าการก่ออิฐฉาบปูนพอสมควร ต่างจากการก่ออิฐฉาบปูนที่แม้จะมีราคาวัสดุที่ถูกกว่า แต่จำเป็นต้องใช้แรงงานในการก่อสร้างมากกว่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างของผนังทั้งสองระบบจึงไม่แตกต่างกันมากเท่าไร

• ด้านคุณภาพ ความแข็งแรง ทนทาน

ผนัง precast เป็นผนังที่ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักของตัวอาคารแทนเสาหรือคาน โดยภายในของผนังจะเป็นเหล็กเสริมกับคอนกรีต ดังนั้นจึงต้องมีการประเมินคุณภาพมาตรฐานจากและควบคุมคุณภาพจากโรงงาน ผลิต ผนัง พ รี แค ส หรือ บริษัท ผลิต ผนัง พ รี แค ส อย่างเข้มงวด จึงมีความแข็งแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับระบบการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน

• ด้านการกันเสียง

เนื่องจากพื้นผิวของแผ่น precast นั้นมีความทึบตันและหนาแน่นมากกว่าอิฐมอญหรืออิฐมวลเบาที่มีรูพรุนมากกว่า ในแง่ของการกันเสียง ผนัง precast จึงทำหน้าที่ได้ดีกว่าพอสมควร

• ด้านการอมความร้อน

ผนัง precast จะอมความร้อนมากกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน เนื่องจากมีความหนาแน่นของพื้นผิวมากกว่าและภายในมีเหล็กอยู่เป็นจำนวนมาก จึงระบายความร้อนได้น้อยกว่าการก่ออิฐ ซึ่งมักมีความพรุนสูง จึงระบายความร้อนได้ดี

• ด้านการรั่วซึม

การผลิตผนัง precast จะผลิตมาจากโรงงานรับ ผลิต ผนัง precast ในลักษณะเป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปประกอบที่หน้างาน ปัญหารั่วซึมส่วนใหญ่จึงมักมาจากรอยต่อระหว่างแผ่น precast แต่ปัญหานี้ตัดไปได้ด้วยการเลือกใช้บริษัท ผลิต ผนัง พ รี แค ส ที่รับติดตั้งผนัง precast ที่มีความเชี่ยวชาญ

• ด้านการทุบ ตอก เจาะ และการต่อเติม

เนื่องจากผนัง สํา เร็ จ รูป precast ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างอาคารในตัวเอง การทุบ ตอก เตาะ หรือต่อเติมนั้นจึงต้องมีการปปรึกษากับวิศวกรผู้ชำนาญการเสียก่อน ส่วนผนังแบบก่องอิฐฉาบปูนนั้นจะมีเสาและคานเป็นตัวเชื่อมโครงสร้าง การทุบ ตอก เจาะ ผนัง หรือต่อเติมจึงทำได้ง่ายกว่า

• ด้านความสวยงาม และการตกแต่ง

ลักษณะของผนัง precast จะออกสีเทา ๆ ขาว ๆ คล้ายสีของคอนกรีต การจะแต่งเติมหรือเพิ่มความสวยงามก็เพียงแค่ทาสีหรือติดทับด้วยวอลเปเปอร์ ไม่ต่างจากผนังแบบก่ออิฐฉาบปูน

สรุปความแตกต่าง ผนัง Precast vs. ผนังอิฐฉาบปูน

ในปัจจุบัน การสร้างอาคารด้วยผนัง สํา เร็ จ รูป precast ได้เข้ามาแทนที่ระบบผนังอิฐฉาบปูนอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ โดยจุดเด่น ๆ ของผนัง precast คือ มาตรฐานและคุณภาพ จึงมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่า อีกทั้งยังมีความสวยงามและประณีตกว่าการใช้ระบบก่ออิฐมาก เนื่องจากเป็นการขึ้นรูปโดยใช้แม่แบบ จึงได้ฉาก มุม ระนาบที่มีความสมบูรณ์และสมส่วน ต่างจากการก่อผนังอิฐฉาบปูนแบบเดิมที่ขึ้นอยู่กับมฝีมือของช่าง นอกจากนี้ยังช่วยร่นระยะเวลาในการก่อสร้างให้ทันความต้องการของผู้รับเหมาและผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

โรงงานผลิตผนัง Precast ของ WITTAWII ปลอดภัย ได้มาตรฐานระดับสากล

WITTAWII บริษัท รับ เหมา ก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทยหนึ่งเดียวที่มีโรงงาน ผลิต ผนัง พ รี แค ส เป็นของตัวเอง รับ ผลิต ผนัง พ รี แค ส คุณภาพสูง ปลอดภัย ได้มาตรฐานระดับสากล ยกระดับมาตรฐานโครงสร้างในงานก่อสร้างให้คงทน แข็งแรง ทำให้งานก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยพื้นที่และกำลังการผลิตที่สามารถผลิตผนัง สํา เร็ จ รูป precast บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ควบคุมคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automatic ทำให้ WITTAWII สามารถผลิตผนัง precast สำเร็จรูปที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและได้รับความไว้วางใจในการเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ทั่วประเทศ