แผ่นพรีคาสท์ (Precast) คืออะไร
อุตสาหกรรมก่อสร้างในปัจจุบันมีการริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการก่อสร้างและสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอน ลดต้นทุนด้านเวลาและความผันผวนของราคาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าสมัยใหม่ หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ แผ่น Precast ที่มีแนวโน้มความต้องการใช้งานเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง
แผ่นพรีคาสท์ (Precast) คือ นวัตกรรมการผลิต “แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป” ในโรงงานผลิตพรีคาสท์ก่อนจะมีการขนส่งไปยังหน้างานก่อสร้างเพื่อติดตั้ง ซึ่งแตกต่างจากวิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิมที่ต้องเทคอนกรีตหล่อที่หน้างาน โดยกระบวนการผลิตแผ่นพรีคาสท์เริ่มต้นด้วยการออกแบบแม่พิมพ์ตามแบบที่ต้องการ จากนั้นจึงเทคอนกรีตลงในแม่พิมพ์ โดยมีการเสริมเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับชิ้นงาน ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น คาน เสา หรือแม้แต่บันได สามารถปรับแต่งให้มีขนาด รูปทรง และพื้นผิวตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งการเลือกใช้แผ่นพรีคาสท์ช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างลงได้อย่างมาก เพราะสามารถผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปพร้อมกับงานเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง ประหยัดเวลา แรงงาน และต้นทุนที่ใช้ในโครงการก่อสร้างได้อย่างคุ้มค่า
ขั้นตอนการผลิตพรีคาสท์
ออกแบบและวางแผน
ขั้นตอนแรกของการผลิต Precast ได้แก่ การออกแบบและวางแผนการผลิตโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำหน้าที่กำหนดข้อกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของโครงสร้างชิ้นส่วนคอนกรีต เช่น ขนาด รูปร่าง การเสริมเหล็ก และส่วนผสมของคอนกรีตเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของโครงการก่อสร้าง
เตรียมแบบหล่อ
เมื่อมีการกำหนดแบบที่ต้องการแล้ว จะเป็นการรับเหมาสร้างแบบหล่อตามแบบที่กำหนด โดยจะมีการใช้เทคนิคหล่อชิ้นงานและถอดชิ้นงานออกจากแบบหล่อให้เป็นไปอย่างง่ายดายและไม่ทำให้ชิ้นงานเสียหาย และแบบหล่อนี้จะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง
เตรียมเหล็กเสริม
เหล็กเสริมจะถูกตัดและดัดตามแบบที่ออกแบบไว้ จากนั้นจะนำไปประกอบเป็นโครงสร้างเหล็กเสริมตามที่กำหนดไว้เมื่อตอนออกแบบ ก่อนนำไปวางในแบบหล่อเพื่อเตรียมการเทคอนกรีต
ผสมและเทคอนกรีต
ส่วนผสมคอนกรีตจะถูกผสมตามสูตรที่กำหนดไว้ โดยมีการตรวจสอบคุณภาพของส่วนผสมและคอนกรีตผสมเสร็จอย่างเข้มงวด จากนั้นจะนำคอนกรีตไปเทลงในแบบหล่อโดยใช้เครื่องสั่นสะเทือนเพื่อไล่ฟองอากาศออก และปาดหน้าให้เรียบเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีพื้นผิวสวยงาม
บ่มคอนกรีต
ชิ้นงานคอนกรีตจะถูกบ่มในสภาวะควบคุม เพื่อให้คอนกรีตแข็งตัวและมีกำลังตามที่ต้องการ โดยใช้ความร้อนและความชื้นช่วยเร่งการบ่ม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน
ถอดแบบและตกแต่งผิว
เมื่อคอนกรีตแข็งตัวได้ที่แล้ว จะถอดแบบหล่อออก จากนั้นนำชิ้นงานไปทำความสะอาดและตกแต่งผิว เช่น ขัดมัน ทำสี เป็นต้น เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพและสวยงาม
ขนส่งและติดตั้ง
ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปจะถูกขนส่งจากโรงงานผลิตพรีคาสท์ไปยังหน้างานก่อสร้าง โดยใช้รถเครนยกติดตั้งประกอบเป็นโครงสร้างอาคารตามแบบที่ออกแบบไว้ ทำให้การรับเหมาก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิต Precast
การเลือกโรงงานผลิตพรีคาสท์ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเลือกผิดพลาด อาจทำให้ต้นทุนโครงการบานปลายและเกิดปัญหาตามมา ดังนั้น มาดูกันว่าควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อต้องเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิต Precast ให้ได้อย่างเหมาะสมและไม่มีปัญหาตามมาในภายหลังหลายท่านอาจเลือกโรงงานผลิตพรีคาสท์โดยดูจากงบประมาณเป็นหลักเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่จริง ๆ แล้ว แม้การเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิต Precast คุณภาพสูงอาจมีต้นทุนที่สูงกว่าในระยะสั้น แต่หากคำนวณดี ๆ จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญจากการลดโอกาสและความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาซ่อมแซมในอนาคต อีกทั้งยังช่วยให้โครงการมีคุณภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า อยู่อาศัยได้อย่างมั่นใจ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคาที่ถูกเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยมีเทคนิคในการเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิตพรีคาสท์ดังนี้
ประเมินประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ผลิต
ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกโรงงานที่มีประวัติการทำงานมายาวนานและมีผลงานที่น่าเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วน Precast ประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าชิ้นงานจะมีคุณภาพและตรงตามความต้องการ
หาข้อมูลกำลังการผลิตและความสามารถในการส่งมอบ
กำลังการผลิตต่อปีและความสามารถในการผลิตชิ้นงานขนาดใหญ่เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย โรงงานที่มีระยะเวลาในการผลิตและส่งมอบที่รวดเร็วจะช่วยให้โครงการก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
โรงงานผลิตใช้เทคโนโลยีและมาตรฐานการผลิต
เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เช่น ระบบ Robotical Customized Concrete และการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 9001 เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง การรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์จะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพของชิ้นงาน
ความยืดหยุ่นในการออกแบบและผลิต
โรงงานที่สามารถผลิตชิ้นงานตามแบบเฉพาะและให้คำปรึกษาด้านการออกแบบและวิศวกรรมได้ จะช่วยให้โครงการก่อสร้างมีความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่มีความซับซ้อน
บริการหลังการขายและการรับประกัน
การให้บริการติดตั้งที่หน้างาน ระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษา เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลแม้ได้ติดตั้ง Precast ไปแล้ว
ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน การจัดการของเสียและการรีไซเคิล รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตของบริษัทหรือโรงงานผลิต Precast จะช่วยส่งเสริมให้โครงการก่อสร้าง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
ขั้นต่ำในการผลิต
โรงงานที่ใช้แม่พิมพ์แบบยืดหยุ่น (Flexible Mould) สามารถผลิตได้โดยไม่มีจำนวนขั้นต่ำ (No Minimum Order) จะช่วยให้คุณสามารถสั่งผลิตชิ้นงานตามความต้องการได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกังวลถึงจำนวนขั้นต่ำ
ผนัง Precast ต่างจากผนังแบบอื่น ๆ อย่างไร
ผนัง Precast เป็นนวัตกรรมที่นำเสนอข้อได้เปรียบหลายอย่างเมื่อเทียบกับผนังแบบดั้งเดิม เช่น ผนังอิฐฉาบปูน ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในกระบวนการก่อสร้างส่วนใหญ่ในประเทศไทย โดยผนัง Precast จะมีความแตกต่างจากผนังแบบอื่นดังนี้
ด้านกระบวนการผลิตและติดตั้ง
ผนังแบบ Precast จะเป็นการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง ชิ้นส่วนสำเร็จรูปจะถูกนำมาประกอบที่หน้างาน ทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โครงการต่าง ๆในปัจจุบันจึงนิยมใช้ Precast เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะต่างจากผนังอิฐที่ต้องก่อสร้างทีละชั้นในหน้างานก่อสร้าง และใช้เวลานานกว่า
ด้านโครงสร้าง
ผนัง Precast ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างและรากฐานในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีเสาหรือคานรองรับ อีกทั้งมีการเสริมเหล็กภายใน ทำให้มีความแข็งแรงมากกว่าและสามารถรองรับน้ำหนักได้ดีกว่าผนังอิฐมวลเบา
ด้านความรวดเร็วในการก่อสร้าง
การติดตั้งผนัง Precast สามารถทำได้รวดเร็วมาก เพียงนำมาประกอบกับโครงสร้างที่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้า ในหนึ่งวันอาจติดตั้งผนังบ้านที่ทำจาก Precast ได้ถึงหนึ่งชั้น ซึ่งเร็วกว่าการก่อผนังอิฐที่ใช้เวลานานกว่า
ด้านคุณสมบัติด้านการกันเสียง
ผนัง Precast สามารถออกแบบให้มีคุณสมบัติกันเสียงได้ เพียงออกแบบให้หนาและมีความหนาแน่นสูง ทำให้กันเสียงได้ดีกว่าผนังอิฐทั่วไปได้
ด้านการดัดแปลงและซ่อมแซม
การดัดแปลง ทุบ ตอก เจาะ หรือต่อเติมผนัง Precast ทำได้ยากกว่าผนังแบบอื่น เนื่องจากเป็นโครงสร้างหลักที่มีความแข็งแรงสูง การซ่อมแซมจึงต้องใช้ความระมัดระวังและใช้เทคนิคเฉพาะโดยผู้เชี่ยวชาญ
ด้านปัญหาการรั่วซึม
ปัญหาที่พบได้จากการใช้ผนังแบบ Precast คือปัญหารั่วซึมที่รอยต่อระหว่างแผ่นผนังเช่นเดียวกับผนังอิฐแบบดั้งเดิม สำหรับการแก้ไขปัญหานี้ เพียงใช้วัสดุและเทคนิคเฉพาะในการติดตั้งเพื่อให้รอยต่อมีความแน่นหนาสมบูรณ์ก็จะลดโอกาสในการรั่วซึมได้มาก
ข้อดีของพรีคาสท์ (Precast)
การเลือกใช้พรีคาสท์เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับโครงการก่อสร้างในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ ได้แก่
ความรวดเร็วในการก่อสร้าง
การใช้ผนังแบบพรีคาสท์มีจุดเด่นสำคัญคือช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้อย่างมาก เนื่องจากชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปสามารถผลิตล่วงหน้าในโรงงานผลิตพรีคาสท์พร้อมกับงานฐานราก เมื่อชิ้นส่วนถูกนำมาถึงหน้างานก็สามารถติดตั้งได้ทันที ไม่ต้องรอขึ้นโครงสร้าง ก่ออิฐ ฉาบปูน รอให้ปูนแห้ง
คุณภาพและความแข็งแรงสูง
การผลิตพรีคาสท์ในโรงงานผลิตพรีคาสท์ที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ทำให้ชิ้นส่วนมีความแข็งแรงและทนทานสูงกว่าคอนกรีตหล่อในที่ นอกจากนี้ยังทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
ประหยัดค่าใช้จ่าย
การใช้พรีคาสท์ช่วยลดค่าแรงงานและอุปกรณ์ในการก่อสร้างหน้างาน นอกจากนี้ยังลดการสูญเสียวัสดุและลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว ทำให้โครงการก่อสร้างมีความคุ้มค่ามากขึ้น
ความยืดหยุ่นในการออกแบบและความสม่ำเสมอของชิ้นงาน
พรีคาสท์สามารถผลิตได้หลากหลายรูปแบบแบบตามแม่พิมพ์ อีกทั้งยังสามารถกำหนดให้สามารถออกแบบให้รับน้ำหนักได้มากกว่าผนังคอนกรีตอิฐแบบทั่วไป นอกจากนี้ ชิ้นงานพรีคาสท์ยังมีมาตรฐานสม่ำเสมอเนื่องจากเป็นการหล่อตามแบบที่กำหนด ทำให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความผิดพลาดในการก่อสร้าง
ควบคุมต้นทุนในโครงการได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อเทียบกับการก่อผนังแบบใช้อิฐฉาบปู ที่ต้องใช้วัสดุก่อสร้างหลายอย่าง หากในระหว่างก่อสร้างไม่ได้มีการคำนวณและควบคุมการใช้วัสดุ ก็มักจะทำให้ต้นทุนด้านวัสดุก่อผนังบานปลาย การใช้ผนังแบบพรีคาสท์ซึ่งเป็นการผลิตจากโรงงานผลิตพรีคาสท์ก่อนที่จะนำมาประกอบที่หน้าโครงการ จึงทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
WITTAWII รับผลิตพรีคาสท์ตามแบบที่ต้องการ (Custom Precast)
WITTAWII ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและติดตั้งพรีคาสท์ตามแบบ รับออกแบบและผลิต Custom Precast ด้วยเทคโนโลยี ROBOCON จากฟินแลนด์ พร้อมส่งมอบชิ้นงานคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานการผลิตระดับสากล (European Standard) รองรับความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรับเหมาผลิตผนังสำเร็จรูป Precast บันไดสำเร็จรูป Precast หรือคานสำเร็จรูป Precast ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราก็สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตให้ตรงตามแบบด้วยเทคโนโลยี Flexible Mould โดยไม่มีจำนวนขั้นต่ำ (No Minimum Order) ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการผลิต Custom Precast สำหรับโครงการก่อสร้างทุกประเภท
WITTAWII ให้บริการทางด้านงานก่อสร้างครบวงจร
WITTAWII เป็นบริษัทชั้นนำที่ให้บริการด้านงานรับเหมาออกแบบก่อสร้างแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีและทุนจดทะเบียนกว่า 100 ล้านบาท บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินโครงการก่อสร้างหลากหลายประเภท ตั้งแต่ที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม ไปจนถึงโรงงานและอาคารพาณิชย์
WITTAWII ให้บริการรับเหมาออกแบบก่อสร้างอย่างครอบคลุมทุกขั้นตอนแม้ระบบโครงสร้างหรือรากฐาน เริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษา วางแผน ศึกษาความเป็นไปได้ สำรวจพื้นที่ ออกแบบ นำเสนอการออกแบบ 3D บริหารจัดการงานก่อสร้าง โดยยึดมั่นในมาตรฐานวิศวกรรมและการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด บริษัทใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบ BIM ในการออกแบบและสร้างแบบจำลอง พร้อมทั้งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 นอกจากนี้ WITTAWII ยังให้บริการแบบ One-Stop Service ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ การขออนุญาตก่อสร้าง ไปจนถึงการดำเนินการเรื่องสินเชื่อกับธนาคาร ด้วยทีมงานมืออาชีพที่ประกอบด้วยวิศวกรโยธา สถาปนิก และผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง WITTAWII จึงเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการบริการงานก่อสร้างที่มีคุณภาพและครบวงจร
ทีมงานมืออาชีพของ WITTAWII พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกราย ด้วยมาตรฐานการทำงานระดับสูงและการใส่ใจในทุกรายละเอียดของงานก่อสร้าง สามารถติดต่อเราได้ที่ ฝ่ายขาย: 094-340-9174, 096-881-7887, 094-661-3502
